วันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2562

เปิด 7 วัน(ไม่)อันตราย กระบี่ ไร้ตาย วางนโยบาย 10รสขม ด่านชุมชน สกัดอุบัติเหตุ เทศกาลปีใหม่ 63yi

เปิด 7 วัน(ไม่)อันตราย กระบี่ ไร้ตาย วางนโยบาย 10รสขม
ด่านชุมชน สกัดอุบัติเหตุ
เทศกาลปีใหม่ 63
การณรงค์สัญจรปลอดภัยวันแรก ณ จังหวัดกระบี่  และ สรุปผลการดำเนินงานศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนและทางทะเล ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 
            วันนี้ (28 ธ.ค. 62) เวลา 09.30   น. ที่ห้องประชุมปลายพระยา (ชั้น 2 )  ศาลากลางจังหวัดกระบี่ นายนันธวัช  เจริญวรรณ  ปลัดจังหวัดจังหวัดกระบี่ เป็นประธานการประชุมการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนและทางทะเลช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 มี นายวสันต์ ไชยทวีวงศ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่   ในฐานะฝ่ายเลขานุการศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนและทางทะเล ปี  2563   สรุปผลการปฏิบัติงานในภาพรวม  ประจำวันที่ 27  ธันวาคม 2562  โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ ตำรวจ  นายอำเภอ  สาธารณสุขจังหวัดกระบี่ ประชาสัมพันธ์จังหวัดกระบี่   หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมรายงานข้อมูลสถานการณ์  รายงานข้อมูลผู้เสียชีวิต  กรณีมีผู้เสียชีวิต   รายงานข้อมูลภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง  พร้อมรายงานอุสรรคปัญหา  และรับมอบนโยบายแนวทาง การปฏิบัติงานเพื่อลดการป้องกันอุบัติเหตุทางถนนและทางทะเลในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563
         
         ทั้งนี้ ในการประชุมได้สรุปผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 จังหวัดกระบี่ โดยข้อมูลสะสมอุบัติทางถนน วันที่ 27 ธันวาคม 2562 (วันที่ 1 ของการรณรงค์)  เกิดอุบัติเหตุ 7 ครั้ง  บาดเจ็บ 8 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต อำเภอเมือง 3 ครั้ง   อำเภอเขาพนม  1 ครั้ง อำเภออ่าวลึก  1 ครั้ง    อำเภอลำทับ  1 ครั้ง    และอำเภอคลองท่อม  1 ครั้ง   สาเหตุส่วนใหญ่มาจากเมาสุรา ไม่สวมนิรภัย  ขับรถเร็วเกินกำหนด  และทัศนวิสัยไม่ดี หมวกนิรภัย โดยยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุ เป็นรถจักรยานยนต์ ในขณะที่มีการเรียกตรวจยานพาหนะจำนวน 3,826  คัน มีผู้ถูกดำเนินคดีตามมาตรการ 10 รสขม “ 1 ร 2 ส 3 ข. 4 ม จำนวน   355  คน เป็นคดีไม่สวมหมวกนิรภัยมากที่สุด 107  คดี คดีรองลงมาคือคดีไม่มีใบขับขี่ 113 คดี
            ในส่วนของการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางทะเลพบว่า เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะนี้ยังไม่มีการเกิดอุบัติเหตุในทะเลไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และไม่มีผู้เสียชีวิต  โอกาสนี้นายนันธวัช  เจริญวรรณ    ปลัดจังหวัดกระบี่   เน้นย้ำข้อสั่งการ  4 ข้อดังนี้   1.ให้ให้หน่วยงานทุกภาคส่วนร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตึทางถนนช่งเทศกาลปีใหม่  2563 โดยใช้กรอบแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ  2563 ให้แต่ละหน่วยงานงานให้ถือปฏิบัติตามแผนอย่างเข้มข้น จริงจังและต่อเนื่อง  เพื่อให้ประชาชนเดินทางสัญจรอย่างปลอดภัย
#KrabiSafetyRadio2020
#จังหวัดกระบี่ #สรุปผลการดำเนินงานศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนและทางทะเล #เทศกาลปีใหม่ #สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND



Share:

วันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2562

กระบี่จัดแผนเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างยั่งยืน

กระบี่เปิดเวที ประชุมจัดทำการแผนลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างยั่งยืน ครั้งที่ 5 ด้วยระบบเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนนขับเคลื่อน โครงการเสริมสร้าง “ตำบลขับขี่ปลอดภัย”
        เวลา 09.15 น.  วันที่ 29 พฤศจิกายน 2562 พ.อ.ชัยพิพัฒน์ รันสูงเนิน รอง ผอ.รมน.จ.กบ. เป็นประธานเปิด โครงการบริหารจัดการแผนงานด้วยระบบเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างยั่งยืนจังหวัดกระบี่ (MIS FOR SUSTAINABLE ROAD SAFETY) ณ โรงแรมกระบี่ฟร้อนเบย์ รีสอร์ท อำเภอเมืองกระบี่  โดยมี นางศิริพร สุขยิ่ง นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ รักษาราชการแทนหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่  ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด จังหวัดกระบี่  ผู้แทนจากหน่วยงานภาคีเครือข่ายในระดับจังหวัด อำเภอ ท้องถิ่น และสื่อมวลชน เข้าร่วม   ทั้งนี้สืบเนื่องจากอุบัติเหตุทางถนนเป็นปัญหาสำคัญ และจังหวัดกระบี่  ได้กำหนดเป็นวาระสำคัญของจังหวัดกระบี่ ให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมรับผิดชอบในการขับเคลื่อนการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนมาโดยต่อเนื่อง  โดยในช่วงเดือนกรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเดือนมหามงคลของปวงชนชาวไทย จังหวัดกระบี่เราได้ร่วมขับเคลื่อนโครงการกระบี่ปลอดภัย ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนถวายในหลวง ได้ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน  ทำให้เราได้บทเรียนการดำเนินงาน และขยายผลการดำเนินงานป้องกันและลดอบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี  รวมทั้งการประชุมครั้งนี้เพื่อ ยกระดับการจัดการเรื่องความปลอดภัยทางถนนของจังหวัดกระบี่เรา ภายใต้การใช้ข้อมูล และแผนงานด้านระบบเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน (MIS FOR SUSTAINABLE ROAD SAFETY) ซึ่งบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ได้พัฒนาเพื่อเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการ ให้กับศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน และภาคีเครือข่ายได้บูรณาการทำงานร่วมกัน      โครงการบริหารจัดการแผนงานด้วยระบบเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างยั่งยืน ครั้งที่ 5 (MIS FOR SUSTAINABLE ROAD SAFETY) ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญในโครงการเสริมสร้าง “ตำบลขับขี่ปลอดภัย” มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดให้มีเวทีกลางในการสร้างการมีส่วนร่วม ระดมสมอง การจัดทำแผนปฏิบัติการระดับจังหวัด อำเภอ และท้องถิ่น โดยมีการบริหารจัดการผ่านระบบ เป็นเครื่องมือในการรวบรวมแผนงาน และติดตามผลเพื่อนำมาปรับปรุงการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น  ซึ่งผู้เข้าร่วมจะได้ทบทวนมาตรการและแผนการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนของจังหวัด  และร่วมกำหนดแนวทางการขับเคลื่อน เพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในทุกระดับ มุ่งเน้นขับเคลื่อนตามนโยบาย “ตำบลขับขี่ปลอดภัย” ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมในพื้นที่



Share:

วันพุธที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2562

“ตูน”แรงส่งวิ่งหนุนพลังก้าวฯ บริจาคช่วย 7 รพ.ใต้ทะลุเป้า








ด 
          กระแสวิ่งที่ส่งผลให้เกิดพลังบุญหนุนช่วย 7 โรงพยาบาลภาคใต้ ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายอย่างน่าประทับใจอีกครั้ง กับการทุ่มเทพลังกาย ใจ ของ “ตูน บอดี้สแลม” หรือ อาทิวราห์ คงมาลัย  ร๊อคเกอร์ชื่อดังที่กลายเป็นไอดอลของสังคมไทยในการปลุกพลังเชิงบวก โดยเป็นผู้นำในการวิ่งเพื่อการกุศล เพื่อเปิดรับบริจาคเพื่อสมทบช่วยเหลือโรงพยาบาลต่างๆ ที่ขาดแคลนอุปกรณ์การแพทย์และอื่นๆ ที่จำเป็นในการดูแลรักษาผู้ป่วย  โดยความตั้งใจและทุ่มเทอย่างต่อเนื่อง ทำให้โครงการที่ “ตูน”เป็นผู้นำในการวิ่ง ในทุกกิจกรรมได้รับการขานรับและประสบผลสำเร็จทุกครั้ง   นอกจากกระแสของสื่อทุกแขนงที่ร่วมมือเกาะติดทุกกิจกรรมที่จัดขึ้น  ยังมีพลังของแฟนคลับ มวลชนจำนวนมากมายที่ชื่นชอบ “ตูน”  จากการกระทำ(ดี)เชิงประจักษ์ของเขาที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน   ร่วมเป็นพลังหนุนทุกรูปแบบ ส่งผลให้กิจกรรมมีคุณค่า  และหลายคนตั้งเป้าหมายว่าอยากจะมาร่วมวิ่ง หรือ มาร่วมริจาค(เงิน)  กับมือของ “ตูน”
          ในห้วงระยะวลา  4 วันที่ผ่านมา  วันที่ 24  -27 ตุลาคม 2562    เป็นการวิ่งครั้งสำคัญของ “ตูน”อีกครั้ง พร้อมกับเหล่าศิลปิน ดารา นักร้อง  แฟนครับ กับ วิ่งก้าวคนละก้าวภาคใต้  ตรัง-กระบี่-พังงา-ภูเก็ต เพื่อหาเงินบริจาคช่วยเหลือ  7  โรงพยาบาลในภาคใต้  คือ  รพ.มหาราช  จ.นครศรีธรรมราช  ,รพ.สมเด็จพระยุพราช อ.สายบุรี จ.ปัตตานี  ,,รพ.ตรัง จ.ตรัง ,รพ.กระบี่ ,,รพ.พังงา,รพ.ตะกั่วป่า จ.พังงา และ รพ.วชิระ จ.ภูเก็ต  และการวิ่งครั้งนี้ ยังเป็นการวิ่งของ”ตูน”ด้วยระยะทางที่มากที่สุด เท่าที่เคยวิ่งมาคือ ระยะทาง 114  กิโลเมตร  จากจุดสตาร์ทคือ หาดราชมงคล จ.ตรัง  มายัง องค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่  รวมถึง เพื่อนร่วมวิ่งคนอื่นๆ ที่วางเป้าหมายการวิ่ง สลับสับเปลี่ยน (วิ่งผลัด) กันจนถึงเป้าหมายจังหวัดภูเก็ตในวันสุดท้าย  ร่วมกับ ตูน
         กิจกรรมการวิ่งของโครงการกล้าก้าวเพื่อ 7  โรงพยาบาลภาคใต้ ภายใต้การนำของ”ตูน” สื่อกระแสหลัก และสื่อท้องถิ่น ร่วมมือร่วมใจกันสื่อสารประชาสัมพันธ์ทุกช่องทาง ให้เกิดการรับรู้ของประชาชนทั้งในพื้นที่และทั่วประเทศให้มากที่สุด  ส่งผลให้ยอดบริจาคจากช่องทางที่เปิดรับ ในแต่ละวัน มีผู้คนยินดีที่จะบริจาคร่วมพลังบุญครั้งนี้ทะลุเป้าที่วางไว้ อย่างน่าพอใจ  รวมทั้ง ตลอดเส้นทางที่ “ตูน” และทีมงานวิ่งผ่าน  มีประชาชนมาร่วมต้อนรับ  ขอถ่ายภาพ  และหยิบยื่นเงินบริจาคผ่านมือ อย่างไม่ขาดสายเช่นกัน  ตอกย้ำกระแส “ตูน ฟีเวอร์” จริงๆ    นอกจากนั้น ทางทีมงานก้าวคนละก้าวฯ  ยังได้จำหน่ายเสื้อวิ่งก้าวคนละก้าว,หมวก,ผ้าบัฟ  ใน  4  จังหวัด(ตรัง.กระบี่,พังงา,ภูเก็ต) เพื่อเป็นรายได้อีกทางหนึ่งในการสมทบทุนช่วย 7 โรงพยาบาลภาคใต้  และทุกพื้นที่ ต่างมีประชาชนมาเข้าแถวยาวเหยียดตั้งแต่เช้ามืดเพื่อรอซื้อสินค้าที่จำหน่าย  และปักหลักรอนักวิ่ง นักร้องนักบุญในดวงใจ “ตูน บอดี้สแลม” อย่างไม่ย่อท้อ แม้ว่า ฝนจะตก แดดจะแรง  เพียงใด ในแต่ละเส้นทางที่วิ่งผ่านมา  นับเป็นความอดทน และทุ่มเทกาย และใจที่เกิน(ร้อย) จริงๆ ของ “ตูน”   นอกจากสภาพอากาศ ที่ไม่เอื้ออำนวย  ยังมีการบาดเจ็บทางร่างกายของนักวิ่งที่ทำให้แต่ละเส้นทาง ถึงเป้าหมายช้ากว่าที่กำหนด   แต่พวกเขาก็ก้าวถึงเป้าหมายอย่างมีความสุข และควรค่าแก่การยกย่องอย่างยิ่ง         
        ตลอดระยะเวลา 4  วัน ที่ ”ตูน”และทีมงานวิ่ง เพื่อหาเงินบริจาคช่วยเหลือ 7 รพ.ในภาคใต้  ปรากฎข่าว ของคนดัง  ดารา นักร้อง ฯ ที่โอนเงินร่วมบริจาคมากมาย อาทิ  ตั๊ก บงกช เบญจรงคกุล(คงมาลัย) 5 แสนบาท,พิธีกรชื่อดัง วู๊ดดี้  5 แสนบาท (มาร่วมวิ่งด้วย) ,แม่ของดาราสาว แมท  ภีรนีย์ 1 แสนบาทฯลฯ, รวมถึงประชาชนคนอื่น ๆที่แม้ไม่ได้เอ่ยนามได้ครบถ้วน  ก็ล้วนแล้วแต่เป็นคนสำคัญทั้งสิ้นที่ทำให้ยอดบริจาคในการวิ่งวันสุดท้าย (27 ต.ค.) มียอดบริจาคกว่า 38  ล้านบาท  (38,392,254 บาท) ,ทะลุเป้าที่วางไว้อย่างน่ายินดี
         ในฐานะสื่อท้องถิ่นเล็กๆ ในจังหวัดกระบี่  ที่มีโอกาสร่วมติดตามท่ำข่าว “ตูน” และทีมก้าวฯ ในระยะเวลาสั้นๆ  เฉพาะในพื้นที่จังหวัดกระบี่เท่านั้น   แต่ทุกข่าวความเคลื่อนไหวของ” ตูน” สื่อท้องถิ่น(กระบี่) ก็เจาะ เกาะติด และหาโอกาสที่จะสัมผัสบรรยากาศการวิ่ง การต้อนรับ  การบริจาค ร่วมกับ “ตูน บอดี้สแลม” สักครั้ง   ซึ่งไม่ผิดหวัง และเข้าใจได้ในทันทีว่าเหตุใดนักร้องหนุ่มใจบุญ คนนี้ จึงเป็นขวัญใจมหาชน   แม้ร่างกายจะอิดโรย เหนื่อยล้า จากระยะทางการวิ่งที่ยาวไกลกว่า 100  กิโลเมตร แต่เมื่อมาถึงองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่  ที่มีทีมของจังหวัดภายใต้การนำของ พ.ต.ท.มล.กิติบดี ประวิตร  ผวจ.กระบี่  ร่วมต้อนรับ และส่งมอบเงินบริจาค 
             “ตูน” มีใบหน้าเปื้อนยิ้ม ปนหยาดเม็ดเหงื่อ   กริยาน่ารัก อ่อนน้อม ยกมือไหว้กล่าวขอบคุณในน้ำใจของชาวกระบี่  และแม้จะใช้เวลาหยุดพักในจุดของแต่ละจังหวัดที่ผ่าน เพียงระยะสั้นๆ  แต่”ตูน” ก็ยังสละเวลาไปรับมอบเงินบริจาคด้วยตนเองจากหน่วยงานที่แจ้งความจำนงไว้ เช่น รพ.กระบี่นครินทร์ อินเตอร์เนชั่นแนล กระบี่ ที่ร่วมบริจาคจำนวน 1  แสนบาท
    และไม่เฉพาะผู้บริจาครายใหญ่เท่านั้น “ตูน”ยังให้ความสำคัญกับทุกคน ไม่ว่าจะมาให้กำลังใจ มาร่วมบริจาคตามรายทาง แม้เป็นจำนวนเงินไม่มากมายนัก แต่หากมีโอกาส เขาก็จะพร้อมมอบรอยยิ้ม  หยุดถ่ายภาพ(เซฟฟี่) กับมวลชน เป็นระยะๆ แม้ว่าจะทำให้เป้าหมายการวิ่งของเขาละทีมงาน จะล่าช้ากว่ากำหนดไปก็ตาม
     จากความคิด และประมวลภาพตามเหตุการณ์ที่ปรากฏ เราเชื่อมั่นว่า  “ตูน” คือแรงส่งคนสำคัญ หนุนพลังก้าวคนละก้าว  ให้แข็งแกร่ง  มีพลัง  ด้วยแรงรัก และศรัทธา ไม่ว่ากิจกรรมจะจัดในพื้นที่ใด   ย่อมบรรลุเป้าหมาย และประสบความสำเร็จดั่งตั้งใจแน่นอน  ####     
Share:

วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2562

สื่อมวลชนกระบี่ร่วมแสดงความยินดีงานฉลองคณะกรรมการบริหาร ไลออนส์กระบี่ 2562-2563


วันเสาร์ที่ 19 ต.ค. 2562 เวลาประมาณ 20.00 น. ณ โรงแรมกระบี่รีสอร์ท อ.เมือง จ.กระบี่ สโมสรไลออนส์กระบี่ได้จัดงานฉลองคณะกรรมการบริหาร สโมสรไลออนส์กระบี่ ปีบริหาร 2562-2563 ซึ่งนายกสโมสรไลออนส์กระบี่ คือ ไลออน อำนาจ  จันทร์คง หรือที่ทุกคนรู้จักกันในชื่อ ดีเจ.ยอดชาย ส่วนเลขานุการ คือ ไลออน พลภัทร  แหลมสัก และเหรัญญิก คือ ไลออน อริสา  มุสิเกิด นอกจากนั้นยังมีกรรมการที่ปรึกษาฝ่ายต่างๆ ซึ่งพร้อมที่จะทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย ในการดำรงค์ตำแหน่งต่างๆ ของสโมสรไลออนส์กระบี่ ไลออนส์สากล ภาค 310 B ปีบริหาร 2562-2563 ในครั้งนี้



ในงานนี้ได้รับเกียรติจาก ไลออน วาทิศ  บุณยปราการ ผู้ว่าการไลออนส์สากล ภาค 310 B เป็นประธาน โดยมีรองผู้ว่าการไลออนส์สากลภาค 310 B อดีตผู้ว่าการภาคไลออนส์สากลภาค 310 B นายกสโมสรไลออนส์ และมวลสมาชิกสโมสรไลออนส์ จากสโมสรต่างๆ รวมทั้งสมาชิกชมรมสื่อมวลชนจังหวัดกระบี่ร่วมแสดงความยินดีเป็นจำนวนมาก



อุดมการณ์ของไลออนส์ มีคติพจน์ที่ว่า "WE SERVE" ซึ่งแปลว่า "เราบริการ" หรือ "เรารับใช้" หมายความว่า ไลออนส์ทุกคนพร้อมอยู่เสมอที่จะให้บริการหรือรับใช้สังคมด้านมนุษยธรรม ให้ความช่วยเหลือผู้ที่ด้อยโชควาสนาหรือยากไร้ ตามกำลังความสามารถโดยไม่หวังชื่อเสียงเกียรติยศ หรือเงินทอง ตอบแทนแต่ประการใด


สำหรับงานฉลองคณะกรรมการบริหารของสโมสรไลออนส์กระบี่ ไลออนส์สากล ภาค 310 B ปีบริหาร 2562-2563 เป็นไปอย่างยิ่งใหญ่และสมเกียรติ
Share:

วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2562

เปิดแล้ว!! “ปูดำเซ็นเตอร์พ้อยท์” ตลาดแห่งใหม่ใจกลางเมืองกระบี่ จุดเช็คอิน ชิม ช็อป สินค้าครบวงจร


เปิด “ปูดำเซ็นเตอร์พ้อยท์” ตลาดแห่งใหม่ใจกลางเมืองกระบี่ จำหน่ายสินค้าเสื้อผ้า ของกินของใช้ ของแฮนด์เมด พร้อมชูเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ในเมืองกระบี่


นายชวน  ภูเก้าล้วน เป็นประธานเปิดตลาด "ปูดำเซ็นเตอร์พ้อย" อย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นช่องทางจำหน่ายสินค้าของพ่อค้าแม่ขายทั้งหลาย และเป็นจุดเช็คอินแห่งใหม่ของเมืองกระบี่


นายชวน กล่าวว่า ตลาด ปูดำเซ็นเตอร์พ้อยท์เป็นอีกช่องทางในการส่งเสริมสินค้าให้เกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ โดยการคัดเลือกสินค้าที่มีคุณภาพและแตกต่างจากทั่วไปนำมาขายในตลาด รวมไปถึงการส่งเสริมสินค้าทำมือ การเปิดตลาด ปูดำเซ็นเตอร์พ้อยท์ เป็นการให้โอกาสกระจายสินค้าและช่องทางการจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้น ตลอดจนดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศเข้ามาจับจ่ายซื้อของ


ตลาด "ปูดำเซ็นเตอร์พ้อยท์" ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกเสือเขี้ยวดาบ เปิดให้บริการแล้ววันนี้ มีประชาชนเข้ามาหมุนเวียนจับจ่ายใช้สอยจำนวนมาก นอกจากนี้ ตลาด "ปูดำเซ็นเตอร์พ้อย" จะเป็นแลนมาร์คแห่งใหม่ของกระบี่ โดยเปิดตลาดตั้งแต่เวลา 10.00 - 22.00 น. พร้อมสนุกกับเวทีประกวดร้องเพลงชิงรางวัลตลอดปี



Share:

วันอังคารที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2562

เดิน-วิ่ง "Run for lanta" ครั้งที่ 2 สมทบทุนช่วย รพ.เกาะลันตาแห่งใหม่


วันที่ 17 ก.ย. 2562 เวลา 13.00 น. ณ ลานใต้สะพานสิริลันตา นายสมบูรณ์  เต็มชื่น นายอำเภอเกาะลันตา พร้อมด้วย นายแพทย์สิริคุปต์  เนตรบุษราคัม ผู้อำนวยการ รพ.เกาะลันตา, นายกฤข  วัฒนพฤกษ์ รองผู้อำนวยการสำนักงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกระบี่ และ น.ส. จรรยารักษ์  สาธิตกิจ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกระบี่ ร่วมแถลงข่าวการจัดกิจกรรมเดิน-วิ่ง "Run for lanta" ครั้งที่ 2 รายได้สมทบทุนซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้แก่ รพ.เกาะลันตาแห่งใหม่ และสาธารณประโยชน์ชุมชนที่ขาดแคลนในพื้นที่เกาะลันตา



สำหรับเส้นทางวิ่งเริ่มตั้งแต่ รร.บ้านศาลาด่าน - สะพาน - ลันตาน้อย หาดหลังสอด (ลงหาดสำหรับรุ่น 21K) การแข่งขันแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ฟันรัน 5 กิโลเมตร ค่าสมัคร 450 บาท, มินิมาราธอน 10.5 กิโลเมตร ค่าสมัคร 550 บาท, ฮาล์ฟมาราธอน 21 กิโลเมตร ค่าสมัคร 650 บาท โดยแบ่งรุ่นออกเป็น ขายและหญิงและช่วงอายุ ดังนี้ 1. รุ่นทั่วไป 2. รุ่นไม่เกิน 19 ปี 3. รุ่น 20-29 ปี 4. รุ่น 30-39 ปี 5. รุ่น 40-49 ปี 6. รุ่น 50-59 ปี 7. รุ่น 60 ปีขึ้นไป


สำหรับกิจกรรมนี้จะมีขึ้นในวันที่ 27 ต.ค. 2562 จึงขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมสร้างสุขภาพที่ดีบนเส้นทางการวิ่งที่สวยงามและยังได้ทำบุญร่วมกันกับ รันฟอร์ลันตา กิจกรรมเดินวิ่งการกุศล มินิ-ฮาล์ฟมาราธอน รันฟอร์ลันตาครั้งที่ 2 นี้

นอกจากมาร่วมวิ่งการกุศลแล้วก็นับเป็นโอกาสที่ดีที่ได้มาเที่ยวพักผ่อน เพราะวันที่ 23 ต.ค. เป็นวันปิยมหาราชซึ่งเป็นวันหยุด ถ้าลา 2 วันก็หยุดยาวกันไปเลย เกาะลันตามีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามอยู่มากมาย แค่เพียงชายหาดทั้ง 13 หาดของเกาะลันตาที่เรียงรายทางทิศตะวันตกตั้งแต่เหนือจรดใต้ ได้ฟินกับน้ำใสๆ หาดสวยๆ ชมวิวพระอาทิตย์ตก ก็ฟินสุดๆ


นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมดำน้ำชมปะการัง เกาะรอก เกาะห้า เกาะพีพี และ 4 เกาะทะเลตรัง (ถ้ำมรกต) ซึ่งติดอันดับสวยงามระดับโลก พร้อมกิจกรรมสำรวจป่าชายเลน, พายเรือคายัค, สำรวจถ้ำและน้ำตก และอื่นๆ อีกมาย ใครยังไม่เคยมาสัมผัสบรรยากาศดีๆ แบบนี้ไม่ควรพลาด

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรและไลน์ 062-798-4883 ช่องทางสมัครออนไลน์ https://site.google.com/view/runforlunta2/ หรือ https://race.thai.run/runforlanta2 หรือสมัครด้วยตนเองได้ที่ (พื้นที่เกาะลันตา) รพ.เกาะลันตา และ รพ.สต.ทุกแห่ง (พื้นที่กระบี่) สหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขกระบี่
Share:

วันจันทร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2562

อุดรสไตล์ Walkable City แนวคิด Road Safety Green City หรือ…?

ทุน 200,000-บาท จากนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดอุดรธานี ในการจัดกิจกรรมทดลองเปิดตัวโครงการ ภายใต้ชื่อ อุดรธานี เมืองเดินได้เดินดี ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น ถนนชิบูย่าเมืองอุดร Udonthani Walkable City เปิดเวทีสาธารณะเพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เพื่อเตรียมรับการเจริญเติบโตของเมือง โดยบริษัทพัฒนาเมือง ร่วมกับ เทศบาลเมืองอุดรธานี เป็นฝ่ายจัดการเรื่อง จัดหาช่าง อุปกรณ์ สี ตกแต่งต้นไม้ รอบบริเวณ





ส่วนเป้าหมายระยะยาว ปีหน้าก็จะเริ่มดำเนิการโดยจะต้องทำสีทางข้ามให้ชัดขึ้น ทำระบบสัญญาณไฟ ทำบ้ายแจ้งให้ผู้ใช้รถใช้ถนนรู้ในการใช้เส้นทางบริเวณนี้ แต่ Udonthani Walkable City ก็เป็นแค่หนึ่งในแผนของกิจกรรมสร้างเมืองไว้ ขับเคลื่อนเรื่อง Green City ไปพร้อมกับทุกภาคส่วน เป้าสูงสุดในการทำ Udonthani Walkable City คือความปลอดภัยทางถนน ลดความเร็วของผู้ใช้รถให้ประชาชนออกมาเดินเยอะขึ้น

การหยิบยกเอากลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ อย่างกลุ่ม คนเดินเท้า คนขี่จักรยาน รวมถึงพวกขับขี่ มอร์เตอร์ไซค์ ถือว่าเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงความเปราะบาง การนำเอาเรื่องนี้มาเป็นเป้าหมายและทิศทางการพัฒนาเมือง เป็นการวางเป้าหมายที่ท้าทาย แต่การที่ทางจังหวัดอุดรธานีกำหนดให้มี Walkable City คือ การต้องปรับฐานคิดวิธการว่าให้ความสำคัญกับคนเดินเท้า ปรับการออกแบบผังเมือง การออกแบบทางกายภาพ เช่น ทำให้ทางข้ามมีความชัดเจน คือการให้ความสำคัญกับคนเดินเท้า และ สิ่งที่ต้องทำควบคู่กันคือ คนเดินเท้านอกจากมีทางข้ามที่ชัดเจนให้เห็นสามารถเดินได้อย่างปลอดภัย ต้องทำให้ความเร็วเฉลี่ยในเมืองไม่สูง เพราะตราบใดที่เรามีทางเดินเท้า ทางเท้ามีทางข้าม แต่รถยังขับเร็ว ทั้งรถยนต์รถมอร์เตอร์ไซค์ จะทำให้คนเดินถนนอันตรายมาก เพราะเขามีความเสี่ยงต่อการถูกชน ความเร็วเพียง 30 – 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แรงปะทะที่เกิดขึ้นทำให้คนเดินถนนที่ถูกชนตกตึก 5ชั้น มีโอกาสเสียชีวิตได้ ถ้าเราจะทำถนนให้คนเดินได้และปลอดภัยก็ต้องคำนึงถึงเรื่องความเร็วเฉลี่ยของรถในเมืองด้วย การออกแบบทำให้ถนนไม่กว้างมาก เพราะถนนที่ส่งเสริมการเดิน และรถยังใช้ความเร็วความเสี่ยงของคนจะไปอยู่บนถนน เช่นถ้าคนยังต้องเดินข้ามถนนที่เป็น 5 ช่องทาง อาจจะปลอดภัยในช่วง 2 – 3 ช่องทางแรก ถนนที่มีหลายช่องทาง รถที่ตีคู่กันมาจะบดบังมุมมองคนที่เดินข้ามมากับรถที่กำลังขับแซงกันมาเพราะจะไม่เห็น ต่างฝ่ายจะมองไม่เห็นกันจะมาชนกันระหว่างรถกับคนเดินข้าม เราจะเจอแบบแผนแบบนี้เยอะมาก การชนในช่องทางเดินรถด้านใน คนที่เดินข้ามถนนกับรถจะมาเจอกันทำให้เกิดอุบัติเหตุ เพราะฉะนั้นควรทำทั้งเรื่องการสร้างกระแสการรับรู้ของผู้ใช้รถใช้ถนน ปรับทัศนะคติคน ทำเรื่องการจัดการผังเมืองทางกายภาพ และเรื่องจัดการจำกัดความเร็วในเขตเมือง

นายแพทย์ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนนให้สัมภาษณ์ ณ โรงแรมเซ็นทารา อุดรธานี 27 พ.ย.62

หลักการสร้างเมืองเดินได้ จากหนังสือ Walkable City โดย Jeff Speck


 ที่มา https://www.citylab.com/solutions/2012/12/10-techniques-making-cities-more-walkable/


ตัวอย่างมาตรการอื่น ๆ เช่น ในรัฐนิวยอร์ก ‘เขต Bronx’ ในรัฐนิวยอร์กสหรัฐอเมริกา


ที่มา http://www.nyc.gov/html/dot/downloads/pdf/2012-10-measuring-the-street.pdf

เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2561 จังหวัดอุดรธานีเปิดทดลองปฏิบัติการเมืองแห่งการเดินบนพื้นที่จริง ณ บริเวณสี่แยกสถานีรถไฟใจกลางเมืองย่านธุรกิจสําคัญ โดยสมาคมอสังหาริมทรัพย์อุดรธานี ร่วมกับเทศบาลนครอุดรธานี สมาคมการผังเมืองไทย Smart Growth Thailand เครือข่าย UDON2029 และกลุ่มมาดีอีสาน ได้รับการสนับสนุนจากสํานักงานกองทุนสนับสนุน การวิจัย (สกว.) ปักหมุดทดสอบออกแบบเมืองแห่งการเดินด้วยวิธี tactical urbanism ครั้งแรกของประเทศไทยที่ ใช้เกณฑ์ LEED-ND บวกกับ Completed Street บนพื้นที่จริงใจกลางเมืองอุดรธานี โดยเริ่มต้นที่สี่แยกสถานีรถไฟ กลางย่านธุรกิจสําคัญ ยูดีทาวน์ ตลาดเริ่มอุดม ตลาดcenter point ด้วยการตีเส้นทางข้ามม้าลายและวาดระบายสีบน ผิวทางเท้าและทดสอบการใช้พื้นที่สาธารณะ public space โดยระบบสัญญาณไฟจราจร จะถูกตั้งเป็น 3 เฟส เพื่อให้ผู้ข้ามถนนแบบทแยงมุมได้

– เฟสที่ 1 ไฟเขียวถนนประจักษ์

– เฟสที่ 2 ไฟเขียวถนนทองใหญ่

– เฟสที่ 3 ไฟแดงทั้ง 4 ทิศทางเป็นเวลา 30 วินาที


สําหรับการวางผังพัฒนาเมือง พร้อมกลยุทธ์การพัฒนาพื้นที่ Technical term Smart Growth Thailand คือ หน่วยงานที่ทําหน้าที่นํากรอบแนวคิดการเติบโตอย่างชาญฉลาด (Smart Growth) ซึ่งการดำเนินการได้รับการพิสูจน์แล้ว จากการนําไปปฏิบัติในภาคมหานคร และภาคเมือง เกือบทั่วทั้งโลก สามารถนํามาเป็นแบบอย่าง ในการวางผังและออกแบบกายภาพเมือง ย่าน และ ชุมชน tactical urbanism คือ การเปลี่ยนพื้นที่ลาน ถนน ทางเท้า ลานจอดรถ หรือพื้นที่เสื่อมโทรมให้เป็นพื้นที่สร้างสรรค์ โดยการก่อสร้าง ตกแต่ง ประดับประดา แบบราคาถูก ต้นทุนต่ํา แต่ได้ผลดีๆ มีปัจจัยหลักคือมีส่วนร่วมลงมือ ลงแรง จากพลเมือง ชาวบ้านร้านตลาดในชุมชนละแวกบ้านใกล้ๆ มาร่วมกิจกรรมสร้างสรรค์ ใช้พื้นที่กัน บ้างก็ ปลูกสนาม หญ้า สร้างที่นั่งเล่น ลานกีฬา สนามเด็กเล่น ลานดนตรี ตลาดนัด แผงลอย อื่นๆ


public space คือ พื้นที่สาธารณะที่ประชาชนมีส่วนร่วมในการทํากิจกรรมทางสังคมร่วมกัน เพื่อประโยชน์ในการ สื่อสาร และสร้างการมีส่วนร่วม เกณฑ์ LEED-ND เกณฑ์ความเป็นผู้นําการออกแบบด้านพลังงานและสภาพแวดล้อมระดับย่านชุมชน เพื่อเป็น เครื่องมือสําคัญสําหรับนักผังเมือง เพื่อใช้ในการออกแบบโครงการเกิดใหม่และโครงการปรับปรุงฟื้นฟูชุมชนเก่าให้มี สภาพเป็นเมืองแห่งการเดิน (walkable city) Completed Street หรือถนนที่สมบูรณ์ คือแบ่งถนนเป็น 4 บทบาท ให้น้ำหนักกับคนเดินมากที่สุด รองลงมาคือ ทางจักรยาน ระบบขนส่งมวลชน และรถยนต์ตามลําดับ ตัวอย่างเช่น เมืองนิวยอร์กที่กฎหมายผังเมืองระบุชัดเจนว่า ในพื้นที่ดําเนินการขนาด 5 เอเคอร์ขึ้นไป จะต้องออกแบบพื้นที่ทางเดินและอํานวยความสะดวกสําหรับจักรยาน

ในส่วนของแนวคิด ฐาปนา บุณยประวิตร นายกสมาคมการผังเมืองไทยอธิบายความสำคัญของ Tactical Urbanism ไว้ว่า โครงการการวางผังเมืองและการออกแบบปรับปรุงฟื้นฟูเมืองของไทยที่มุ่งหวังให้เกิดผลด้านเศรษฐกิจขนานใหญ่ หรือการวางแผนพัฒนาโครงการที่มีผลกระทบต่อสาธารณะ รัฐควรเลือกใช้เทคนิค Tactical Urbanism เป็นเครื่องมือในการรับฟังความคิดเห็น แม้จะต้องเสียงบประมาณเป็นจำนวนมากในการเตรียมการ แต่ผลที่ได้จะมีความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับความถูกต้องแม่นยำจากความต้องการที่แท้จริงที่ได้รับจากกลุ่มเป้าหมาย โดย Tactical Urbanism เป็นแนวคิดที่เกิดขึ้นเนื่องจากความไร้ประสิทธิภาพของการรับฟังความเห็นแบบเดิม ๆ ให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้ทดสอบใช้ประโยชน์หรือเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสถานการณ์จำลอง จะทำให้ทราบถึงความรู้สึกเชิงบวกและเชิงลบที่ได้รับจากสถานการณ์นั้น โดยประเด็นส่วนใหญ่ที่รับฟังได้แก่ การใช้ประโยชน์ที่ดิน การวางแผนโครงข่ายขนส่งมวลชน การออกแบบปรับปรุงฟื้นฟูเมือง การออกข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดิน อาคาร และสภาพแวดล้อมเมือง Tactical Urbanism จึงเปรียบเสมือนกลยุทธ์การอุดช่องโหว่ความคลาดเคลื่อนผลการรับฟังความคิดเห็น

ผลได้ที่สำคัญคือ การรับรู้ความต้องการจากกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ แม้ไม่ได้ตั้งใจจะเข้าร่วมกิจกรรม แต่จากการได้รับผลกระทบทางตรงและทางอ้อมจากสถานการณ์ กลุ่มดังกล่าวจะแสดงข้อคิดเห็นในทุกมิติออกมา ทำให้การสรุปผลจากสถานการณ์ถูกต้องแม่นยำ เนื่องจากคนกลุ่มนี้มีปริมาณมากกว่ากลุ่มตัวอย่างที่เข้าร่วมการทดสอบ และจะสามารถทดสอบหาค่ากลางที่ยอมรับได้ด้านนโยบายสาธารณะ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การปรับปรุงฟื้นฟูถนน

บทสรุป Udonthani Walkable City จะพุ่งเป้า Road safety หรือ Green City ยังคงต้องให้ประชาชนเมืองตัดสินใจ


ภาพประกอบ : ไพบูลย์ เหลืองอิงคะสุต

ทรรศวิทย์ เชษฐเผ่าพันธ์ ทีมข่าวจังหวัดกระบี่ รายงาน
Share:

วันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2562

ใครคิดว่าถูกรางวัลที่ 1 ยากแล้ว!!! ลองมาเล่นเกมส์กับผมไหม(!?)

ใครคิดว่าถูกรางวัลที่ 1 ยากแล้ว!!!
ลองมาเล่นเกมส์กับผมไหม(!?)
>>>ลองหาว่า สค.1 เลขที่ 1 และ
เลขที่ 2  หมู่ที่ 3 ตำบลอ่าวนาง
อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่
หากไม่ได้อยู่บนเกาะปอดะจริง
แล้วอยู่ที่ใด ในตำบลอ่าวนาง
(ส่วนตัวผมเชื่อว่าอยู่บนเกาะปอดะ)
แต่หากท่านมีข้อมูลหลักฐานที่
สามารถพิสูจน์ได้ชัดเเจ้งว่า
อยู่ที่อื่น ผมจ่ายทันที 6 ล้านบาท

ธนวัช ภูเก้าล้วน








Share:

วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2562

เปิดแล้วอย่างเป็นทางการ! “Grand Opening อ่าวลึก สามกอ ยนตรกิจ” แหล่งรถมือสองคุณภาพเยี่ยม


เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 2562 ณ อ่าวลึก สามกอยนตรกิจ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ แหล่งรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ล่าสุด จัดงานแกรนด์ โอเพนนิ่ง เปิด อ่าวลึก สามกอ ยนตรกิจ อย่างเป็นทางการ โดยมี นายสมควร ขันเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานเปิดงาน และ นางเสาวภา เกษีสม เป็นเจ้าของกิจการให้การต้อนรับ


ภายในงานมีการแสดง แสง สี เสียง สุดอลังการณ์ และนักร้องลูกทุ่ง ธนสาร บัญชาชัย, รุ่งฟ้า ปลายพระยา มาในเพลง สาวใต้หัวใจรักจริง และอีกมากมาย พร้อมสนุกกับกิจกรรมตอบคำถามรับของรางวัล ส่วนไฮไลต์โชว์ช่วงเปิดงานเป็นการแสดงรำมโนห์รา นอกจากนี้ MC ภายในงานกล่าวเชิญชวนชาวจังหวัดกระบี่และจังหวัดใกล้เคียงให้แวะมาเยี่ยมเยียน อ่าวลึก สามกอ ยนตรกิจอีกด้วย


ในเรื่องคอนเซ็ปต์และความโดดเด่นของอ่าวลึก สามกอ ยนตรกิจ เราให้ความใส่ใจต่อลูกค้า พร้อมให้คำแนะนำที่ถูกต้องแก่ลูกค้าที่ต้องการออกรถ ตามสโลแกนของเราที่ "คิดเพื่อคุณ... เรื่องรถยนต์มือสอง" โดยครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า



Share:

ติดตามข่าวสาร

จำนวนผู้เข้าชม

Blog Archive